เหล็กชีทไพล์ (Sheet Piles)
เหล็กเข็มพืด หรือเสาเหล็กเข็มพืด สำหรับงานกำแพงกันดินและแนวป้องกันน้ำ เป็นเหล็กรีดร้อนคุณภาพสูงที่มีเขี้ยวอยู่ที่ปลายทั้งสองด้านซึ่งสามารถตอกสลับเพื่อเข้าเขี้ยวกันจากการล็อคและต่อกันไปเรื่อยๆ ใช้ตอกในแนวดิ่งเพื่อป้องกันแรงดันน้ำและแรงดันดิน เหมาะสำหรับงานกำแพงที่ต้องการรับแรงดันมาก ที่อาจทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของสิ่งก่อสร้าง สามารถใช้ได้ทั้งแบบชั่วคราวและถาวร แข็งแรง ติดตั้งง่ายและรวดเร็วกว่าการสร้างแนวกำแพงแบบอื่นๆ มักใช้ในงานฐานรากสำหรับอาคารสูงที่ต้องมีชั้นใต้ดิน งานฝังถังน้ำบำบัดน้ำเสีย งานสะพาน งานระบบส่งน้ำของกรมชลประทาน งานเขื่อนกั้นน้ำ เป็นต้น

เหล็กชีทไพล์หรือเหล็กเข็มพืด แบ่งออกเป็น 3 แบบ
1. Sheet Pile with Handing Hole - เพื่อความสะดวกในการตอก ถอน หรือเคลื่อนย้าย โดยมีการเจาะรู 1รู/ท่อน สำหรับคล้องอุปกรณ์ในการยก
2. Underground Work Solution - สำหรับงานรับเหมาก่อสร้างในงานใต้ดิน เช่น งานขุดดิน (Excavation) งานตอกและถอน งานเสาเข็มและฐานราก งานป้องกันหน้าดินทลาย งานสร้างเขื่อน งานสร้างอาคารใต้ดิน เป็นต้น
3. Tapered Sheet Pile - สำหรับการตอกเป็นระยะแนวยาว เช่น ริมแม่น้ำ เพื่อควบคุมองศาเนื่องจากความไม่สม่ำเสมอของสภาพดินที่อยู่ด้านล่าง ฉะนั้นการตอก Tapered Sheet Pile ทุกระยะ 20-30 เมตร (แล้วแต่สภาพหน้าดิน) เพื่อปรับองศาของ Sheet Pile จะทำให้แนวการตอกกลับมาได้องศาที่ดีดังเดิม


ประเภทเหล็กชีทไพล์ (Sheet Piles)

รุ่นขนาด (มม.)
กว้าง W(e) x สูง H(e)
ความหนา
(มม.)
น้ำหนัก (กก.) +/-
ยาว 6 ม.ยาว 12 ม.
SP-II400 x 10010.5288576
SP-IIA400 x 15013.1350.4700.8
SP-III400 x 12513360720
SP-IV400 x 17015.5456.6913.2

การเลือกประเภทชีทไพล์ให้เหมาะสมสำหรับหน้างานก่อสร้าง

ควรเลือกจากการคำนึงถึงความเหมาะสมของรูปแบบการก่อสร้างที่มีความลึกและแรงดันที่แตกต่างกัน แบ่งออกหลักๆเป็น 2 รูปแบบ คือ งานโครงสร้างกันดินแบบถาวรและแบบชั่วคราว

งานโครงสร้างกันดินแบบถาวร
มักใช้ในงานเขื่อนป้องกันตลิ่ง เพื่อป้องกันน้ำท่วมเข้าภายในบริเวณพื้นที่ หรือแม้แต่งานประตูระบายน้ำเพื่อเพิ่มระยะทางเดินของน้ำ ซึ่งจะช่วยลดแรงดันน้ำลอดใต้ดิน (Seepage) ที่อาจส่งผลโดยตรงต่อความเสียหายของตัวเขื่อน รวมถึงการใช้งานท่าเรือเพื่อป้องกันน้ำตลอดแนวชายฝั่งอีกด้วย

ในช่วงการก่อสร้าง ควรตอกแผ่นชีทไพล์หรือเหล็กเข็มพืดลงไปในดินให้มีระดับความลึกเพียงพอ โดยสามารถเลือกใช้เป็น ชีทไพล์ Type 2 (SP-II) แต่หากต้องการระดับความลึกที่มากขึ้น สามารถปรับมาเป็น ชีทไพล์ Type 3A(SP-IIIA) หรือ ชีทไพล์ Type4 (SP-IV) โดยผ่านการคำนวณจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญโดยละเอียดก่อน สำหรับงานผิวของชีทไพล์จะมีการทำสีแบบ 2 ระบบ คือสีชนิดพิเศษ (Coated Sheet Piles) และแบบการชุบกัลวาไนซ์ (Galvanized Sheet Piles) ที่ช่วยยืดระยะเวลาในการป้องกันการกัดกร่อนที่สูงขึ้น

งานโครงสร้างกันดินแบบชั่วคราว
คือโครงสร้างที่ทำเพื่อป้องกันการพังทลายของดินเมื่อต้องขุดดินลงไปในงานฐานรากของอาคาร ฐานรากตอม่อ รถไฟฟ้า ตอม่อสะพาน หรืองานก่อสร้างฐานรากที่มีพื้นที่จำกัดและต้องรับแรงสั่นสะเทือนสูงของยานพาหนะ ที่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนตัวของดินรอบๆหลุม 


ในช่วงการก่อสร้างจึงต้องตอกฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ลงไปในดินระยะที่ปลายล่างของแผ่นผนังยึดแน่นพอ และรับแรงดันดินด้านข้างได้โดยไม่มีการล้มตัว เพื่อทำหน้าที่เป็นกำแพงกันดินแล้วจึงขุดดินออกเพื่อเข้าไปทำฐานรากหรือห้องใต้ดิน สามารถเลือกใช้ ชีทไพล์ Type3 (SP-III) สำหรับงานที่ไม่ลึกมาก หรือหากต้องการเพิ่มกำลังเป็น ชีทไพล์ Type4 (SP-IV) จะต้องผ่านการคำนวณจากผู้เชียวชาญโดยละเอียดก่อน หลังจากการก่อสร้างเสร็จ จึงค่อยรื้อถอนโครงสร้างกำแพงดินชั่วคราวออก
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งเหล็กชีทไพล์คุณภาพ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน มอก. ในราคาโรงงาน สามารถสอบและสั่งซื้อผ่านไลน์@kuanglee
เพราะเราคือทีมงานมืออาชีพในเรื่องเหล็กทุกประเภท ที่คุณไว้ใจได้
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้