เหล็กเพลานั้นมีหลายสี แต่ละสีต่างกันอย่างไร?

เหล็กเพลา (Steel Round Bar) คือวัสดุที่ขาดไม่ได้ในงานอุตสาหกรรม งานก่อสร้าง และงานเครื่องจักร ด้วยคุณสมบัติที่เหนียวพิเศษและไม่เปราะง่าย ทำให้ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานกลึง งานชิ้นส่วนรถยนต์ หรืองานเครื่องจักรต่างๆ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเหล็กเพลามีหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักเหล็กเพลาแต่ละประเภทอย่างละเอียด

เพลาขาว (Cold Drawn Bar) - มาตรฐานสากลที่ใช้งานได้หลากหลาย ผลิตจากการนำเหล็กเส้นกลมไปผ่านกระบวนการดึงเย็น (Cold Drawing) ทำให้สีของเหล็กเปลี่ยนจากสีเทาดำเป็นสีเงินสวยงาม
- คุณสมบัติ: มีความแข็งมากกว่าเหล็กรีดร้อนทั่วไป แต่มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าเล็กน้อย ผิวเรียบสวยงาม เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสวยงามและความเที่ยงตรง โดยเฉพาะเกรด A ที่มีเนื้อตรงและทนทานจริง
- การใช้งาน: เหมาะกับงานโครงสร้างทั่วไป เช่น หน้าต่าง รั้ว ระเบียงกันตก เฟอร์นิเจอร์ งานยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นเพลาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในท้องตลาด

เพลาแดง หรือเพลาหัวแดง - เหล็กกล้าคาร์บอนกลางสำหรับงานที่ต้องการความแข็ง ภายใต้เกรดคุณภาพ S45C และ S50C
- คุณสมบัติ: มีคาร์บอนเป็นกลางประมาณ 0.45%-0.55% บางยี่ห้อผสมอัลลอยอื่นๆ เพื่อช่วยในกระบวนการอบหรือชุบให้ง่ายขึ้น หลังผ่านการชุบแข็ง จะมีความแข็งถึง 60HRC แต่มีข้อจำกัดคือไม่ค่อยทนต่อสนิม
- การใช้งาน: นิยมใช้ในงานที่ต้องการความแข็งพิเศษ เช่น ฐานบ้าน เฟืองขนาดเล็ก สลักเกลียว และงานที่ต้องการความแข็งแกร่งในการรับแรงกด

เพลาฟ้า - เหล็กกล้าผสมสำหรับงานหนักและทนทาน คุณภาพเกรด SCM440
- คุณสมบัติ: เป็นเหล็กกล้าผสม (Alloy Steel) มีคาร์บอนเพียง 0.40% แต่ผสมกับธาตุพิเศษ เช่น ทังสเตน วาเนเดียม โมลิบดินัม ทำให้มีคุณสมบัติพิเศษในการลดการเสียดสีและทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดีกว่าเพลาหัวแดง มีความเหนียวสูงและทนต่อการกระแทกได้เป็นอย่างดี
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานหนักที่ต้องรับแรงกระแทกสูง เช่น นอต สกรู เพลาเกียร์ ก้านสูบ และชิ้นส่วนรถยนต์ต่างๆ โดยเฉพาะงานที่ต้องทำงานร่วมกับวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีการเสียดสีหรือความร้อนสูง

เพลาหกเหลี่ยม - รูปทรงพิเศษสำหรับงานที่หลากหลาย คุณภาพเกรด SS400 หรือ S20C
- คุณสมบัติ: มีรูปทรงหกเหลี่ยมที่ช่วยในการยึดจับและป้องกันการหมุนลื่น สามารถชุบแข็งด้วยเปลวไฟ (Flame Hardening) และฟอร์จขึ้นรูปได้
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานอะไหล่ชิ้นส่วนเครื่องจักร งานที่ต้องการการยึดแน่นและไม่ต้องการให้หมุนลื่น เช่น เพลาขับเคลื่อน ชิ้นส่วนเครื่องมือกล และงานอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ต้องการรูปทรงพิเศษ

เพลาสแตนเลส (Stainless Steel Round Bar) - ทางเลือกพิเศษสำหรับงานที่ต้องการความสะอาดและทนการกัดกร่อน แบ่งออกเป็นเกรด SUS304, SUS316, SUS316L, SUS430
- คุณสมบัติ: เป็นเหล็กกล้าไร้สนิมที่มีโครเมียมเป็นส่วนผสมหลักอย่างน้อย 10.5% ทำให้เกิดฟิล์มโครเมียมออกไซด์บนผิวที่มองไม่เห็น ช่วยป้องกันการเกิดสนิมและกัดกร่อน แม่เหล็กไม่สามารถดูดติดได้ (ยกเว้นเกรด 430) มีความเหนียวสูง ต่อการขึ้นรูปและเชื่อมได้ดี ทำความสะอาดง่าย ไม่ดูดซับสารเคมี กลิ่น หรือรสชาติ
เกรดยอดนิยมและความแตกต่าง
• SUS304: เกรดที่ใช้กันแพร่หลายที่สุด มีโครเมียม 18% นิกเกิล 8% (เรียกว่า 18/8) ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี ราคาประหยัดกว่าเกรด 316 หล่อขึ้นรูปเย็นได้ดี และสามารถซ่อมแซมตัวเองได้เมื่อฟิล์มผิวถูกทำลาย
• SUS316: มีส่วนผสมคล้าย 304 แต่เพิ่มโมลิบดีนัม 2-3% เข้าไป ทำให้ทนต่อการกัดกร่อนและสารคลอรีนได้สูงกว่า 304 เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมเปียกและอับชื้น ราคาแพงกว่า 304 เล็กน้อย แต่อายุการใช้งานยาวนานกว่า
• SUS316L: มีโครเมียม 16-18% นิกเกิล 12-15% โมลิบดีนัม 2-3% ทนกรดและน้ำทะเลได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับงานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือน้ำทะเล
• SUS430: คล้าย 304 แต่ไม่มีนิกเกิล มีคาร์บอนสูงขึ้นเพื่อเพิ่มความแข็งแรง รองรับแรงกระแทกได้ดี ราคาประหยัดกว่าเกรดอื่น

- การใช้งาน:
• เกรด 304: เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายใน-นอก เครื่องใช้ในบ้าน (ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ซิงค์ล้างจาน) งานท่อ เครื่องทำความร้อน งานอาหาร
• เกรด 316: ชิ้นส่วนเรือสำราญ อุปกรณ์กักเก็บสารเคมี เครื่องมือแพทย์ งานสภาพแวดล้อมทางทะเล
• เกรด 316L: อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเคมี อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนที่สัมผัสน้ำทะเล
• เกรด 430: งานที่ต้องการความแข็งแรงและรับแรงกระแทกในราคาประหยัด

การเลือกใช้เหล็กเพลาให้เหมาะสมกับงานคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้โปรเจกต์ของคุณสำเร็จลุล่วง ประหยัดต้นทุน และใช้งานได้ยาวนาน หากสนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหล็กเพลาแต่ละชนิด สามารถติดต่อสอบถามได้ทาง @kuanglee